ผู้จัดทำและดูเเล


นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะวิทยาการจัดการ หลักสูตรบริหารธุรกิจ

สาขาวิชาการเงิน [1/2554]

ร ายวิชา การจัดการธนาคารพาณิชย์ A1 (3635102)


นางสาวอรมรินทร์ วันศรี (ซฺิ้ม)

นายธิติพงษ์ มหาเมฆ (หลุย)

นายอิทธิพัทธ์ ไทรชมภู (นิค)

นายอภิชาติ เเก้วสุนีย์ (ปิง)

นายจักรพงษ์ ปิ่นเเก้ว (อุ้ม)

นายวัชรพล เอื้อสุขไพศาลกุล (บุ้ง)

นางสาวนันทนัช เล้าศศิวัฒนพงษ์ (มุก)

นางสาวกนกวรรณ ชะเอม (เฟิร์น)





รายละเอียดเพิ่มเติม : http://soclever1.blogspot.com/

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

SCBปรับลุคส์ถ่ายรูปผ่านบีบีประเมินรถ

 วันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2554



SCB ปรับลุคส์ถ่ายรูปผ่านบีบีประเมินรถ
นายณรงค์ ศรีจักรินทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมาเติบโตได้ดี เพิ่มขึ้นถึง 50% อยู่ที่ 75,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 53 อยู่ที่ 50,000 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ยอดสินเชื่อคงค้างในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารจะอยู่ที่ 120,000 ล้านบาท โดยจะเป็นยอดสินเชื่อคงค้างในส่วนของรถใหม่ 95,000 ล้านบาท รถเก่า 15,000 ล้านบาท และสินเชื่อรถยนต์ My Car My Cash อีก 10,000 ล้านบาท

โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อรถยนต์ My Car My Cash ที่จะมีการเติบโตขึ้นอีกมาก เนื่องจากทางธนาคารได้เปลี่ยนวิธีการในการประเมินราคารถยนต์เพื่อให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จากเมื่อก่อนที่ต้องใช้พนักงานประเมินราคารถของธนาคารจำนวน 30 ราย เดินทางไปตรวจสอบและประเมินราคารถยนต์ตามสาขาต่างๆ ซึ่งจะต้องใช้เวลามาก และทำการประเมินราคารถต่อเดือนได้เพียง 200-300 ราย ทำให้ธนาคารเปลี่ยนมาใช้วิธีการถ่ายรูปผ่านเครื่องบีบี ซึ่งจะมีประจำอยู่ทุกสาขาของธนาคาร สาขาละจำนวน 1,000 เครื่อง โดยจะให้พนักงานแต่ละสาขาถ่ายภาพให้พนักงานประเมินรถยนต์ที่ประจำอยู่สาขาใหญ่จำนวน 16 จุด แล้วพนักงานประเมินราคารถจะตรวจสอบภาพและทำการตีราคารถได้เลย ทำให้ธนาคารสามารถประเมินราคารถได้เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 4,000 คัน โดยใช้พนักงานประเมินราคารถเพียง 5 คนเท่านั้น ซึ่งกลยุทธ์ใหม่นี้ได้เริ่มดำเนินการไปเมื่อ มิ.ย.ที่ผ่านมา และในอนาคตอาจจะมีการถ่ายภาพที่เป็นเอกสารของลูกค้า ซึ่งจะสามารถทำการอนุมัติเงินให้ลูกค้าได้ในทันทีก็เป็นได้

สำหรับในปีหน้าทางธนาคารจะมีการปรับพอร์ตสินเชื่อให้เป็นรถใหม่ประมาณ 60% และที่เหลืออีก 40% จะเป็นในส่วนของสินเชื่อรถยนต์ My Car My Cash และรถเก่า จากปัจจุบันสัดส่วนรถใหม่อยู่ที่ 90% และอีก 10% เป็นในส่วนของรถเก่าและสินเชื่อรถยนต์ My Car My Cash เนื่องจากตลาดรถใหม่มีคู่แข่งเยอะมาก และตลาดสินเชื่อรถยนต์ My Car My Cash ก็เป็นตลาดเดียวกับตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งถ้าลูกค้าของธนาคารมาขอสินเชื่อส่วนบุคคลและมีรถมาค้ำประกันโดยที่รถไม่ติดภาระที่ไหน ก็จะได้รับดอกเบี้ยแฟลทเรตที่ถูกมากเพียงแค่ 3% เท่านั้น รวมถึงตลาดของรถเก่าที่มีอายุ 12 ปี ที่จะได้ดอกเบี้ยเยอะกว่ารถใหม่มาก และถึงแม้ในปีนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารจะเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารก็ต่ำมากเช่นกันอยู่ที่ 0.9% ซึ่งธนาคารตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีจะต้องไม่เกิน 1.1%

ทั้งนี้ทางธนาคารตั้งเป้าที่จะต้องเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ให้ได้ โดยจะมีพอร์ตสินเชื่อประมาณ 300,000 ล้านบาท ภายใน 4 ปีข้างหน้า ซึ่งในปีหน้าธนาคารจะเริ่มไปรุกในธุรกิจเทรดไฟแนนซ์ให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการปล่อยสินเชื่อให้กับโชว์รูมรถยนต์ หรือผู้ประกอบการรถให้เช่า โดยวงเงินที่จะปล่อยสินเชื่อจะอยู่ประมาณ 100-1,000 ล้านบาท ซึ่งลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารมีอยู่แล้ว เช่น ธุรกิจปูนซีเมนต์ ธนาคารอาจจะมีการเข้าไปปล่อยสินเชื่อในส่วนของรถขนปูน เป็นต้น รวมถึงการปล่อยกู้ให้กับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ด้วย เพราะธนาคารต้องการทำธุรกิจให้ครบวงจร ส่วนในกลุ่มรถสาธารณะทางธนาคารก็สนใจเช่นเดียวกัน เพียงแต่จะเข้าไปในส่วนของรถตู้ รถแท็กซี่ เป็นต้น ซึ่งทางสาขาบางแห่งก็เรียกร้องในการขอปล่อยกู้ให้กับกลุ่มรถตู้อยู่เช่นกัน เพราะสาขาธนาคารจะรู้จักกับกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้เป็นอย่างดี





ที่มา :  บ้านเมืองออนไลน์
Link : http://www.banmuang.co.th/economic.asp?id=248195

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น