ผู้จัดทำและดูเเล


นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะวิทยาการจัดการ หลักสูตรบริหารธุรกิจ

สาขาวิชาการเงิน [1/2554]

ร ายวิชา การจัดการธนาคารพาณิชย์ A1 (3635102)


นางสาวอรมรินทร์ วันศรี (ซฺิ้ม)

นายธิติพงษ์ มหาเมฆ (หลุย)

นายอิทธิพัทธ์ ไทรชมภู (นิค)

นายอภิชาติ เเก้วสุนีย์ (ปิง)

นายจักรพงษ์ ปิ่นเเก้ว (อุ้ม)

นายวัชรพล เอื้อสุขไพศาลกุล (บุ้ง)

นางสาวนันทนัช เล้าศศิวัฒนพงษ์ (มุก)

นางสาวกนกวรรณ ชะเอม (เฟิร์น)





รายละเอียดเพิ่มเติม : http://soclever1.blogspot.com/

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ไทยพาณิชย์เตรียมเปิดจองซื้อหุ้นกู้"แสนสิริ" มูลค่ารวม 1,000 ล้าน

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554









ธนาคารไทยพาณิชย์ โดย นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และ บมจ. แสนสิริ โดย นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ และนายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมในพิธีลงนามแต่งตั้งให้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของกลุ่มบริษัทแสนสิริ อายุ 5 ปี จำนวน 1 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริ 
โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม 2554 ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777


วิเคราะห์ข่าว

ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของบริษัทแสนสิริ โดยมีอายุ 5 ปี  มูลค่ารวม  1000 ล้านบาท  ทั้งนี้ก็เพื่อนำเงินไปพัฒนาโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทแสนสิริ   และการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้น่าจะเป็นที่น่าเชื่อถือของผู้ที่จะซื้อหุ้นได้เป็นอย่างดี  เนื่องจากบริษัทแสนสิริเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว และโครงการหลายโครงการในด้านอสังหาริมทรัพย์ก็ประสบความสำเร็จตลอดมา ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้


ที่มา : มติชนออนไลน์
like  :  http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1310462671&grpid=&catid=10&subcatid=

ไทยพาณิชย์ปล่อยกู้ 500 ล้านโครงการ “เดอะ เวเนเซีย หัวหิน”

วันที่ 07 กรกฎาคม พ.ศ. 2554



นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายลูกค้าขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ นายสุขเกษม เหล่าหงษ์เกียรติ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟชั่น วิลเลจ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในสัญญาสนับสนุนทางการเงินจำนวน 500ล้านบาท เพื่อดำเนินการพัฒนาโครงการ “เดอะ เวเนเซีย หัวหิน” (The Venezia Hua Hin) ไลฟ์สไตล์ เดสทิเนชั่น ในรูปแบบ คอมมูนิตี้ มอลล์ แห่งใหม่ประจำเมืองหัวหิน 






      ที่สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ด้านการพักผ่อนของคนทั่วประเทศ รวมถึงรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โครงการ “เดอะ เวเนเซีย หัวหิน” ไลฟ์สไตล์ เดสทิเนชั่น ในรูปแบบของคอมมูนิตี้ มอลล์ แห่งใหม่บนเนื้อกว่า 46ไร่ ริมถนนเพชรเกษม สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของเมืองหัวหิน แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของผู้มีไลฟ์สไตล์จากทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึงปีละ 13 ล้านคน และพร้อมจะเปิดให้บริการได้ในเดือนกรกฎาคม 2555


สรุปวิเคราะห์ข่าว

ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ปล่อยกู้  5oo ล้านบาท เพื่อดำเนินการพัฒนาโครงการ เดอะ เวเนเซีย หัวหิน” (The Venezia Hua Hin)  ในรูปแบบ คอมมูนิตี้  มอลล์ ที่หัวหิน  เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการพักผ่อนของคนทั้งประเทศ  และได้เล็งเห็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดประจวบขีรีขันธ์ที่มีการเติบโตเรื่อยมา  ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีอีกที่หนึ่ง 


ที่มา : ประชาชาติธุรกิจอนไลน์
link  : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1310030286&grpid=no&catid=14

กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์คว้า 3 รางวัลแบรนด์ที่เชื่อมั่นได้

วันพุธที่ 06 กรกฏาคม 2011






กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์คว้ารางวัล แบรนด์ทีเชื่อมั่นได้ระดับโกลด์ประจำปี 2554 ใน 3 หมวดจากนิตยสาร Reader's Digest  ได้แก่ “ธนาคาร”, “บัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคาร” และ “บริษัท/กองทุนเพื่อการลงทุน” โดยผลรางวัลมาจากการสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ไทยพาณิชย์ใน 6 ด้านคือ ความน่าเชื่อถือ คุณภาพ คุณค่า ความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค ความรับผิดชอบต่อสังคม และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการที่เสนอสินค้าหรือบริการใหม่ๆ สู่ตลาดเสมอ ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินของกลุ่มธนาคารอย่างต่อเนื่อง
 

วิเคราะห์ข่าว

จากการที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับรางวัลแบรนด์ที่เชื่อมั่นได้ระดับโกลด์ประจำปีนี้     ก็ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อถือในตัวผลิตภัณฑ์  และบริการของธนาคารได้เป็นอย่างดี  จะทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค  และยังแสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคว่าต้องการการบริการแบบใดบ้างจากธนาคารที่ตนไว้วางใจที่จะใช้บริการด้วย  อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ก็มี  6  ด้านด้วยกัน  คือ  ความน่าเชื่อถือ คุณภาพ คุณค่า ความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค ความรับผิดชอบต่อสังคม และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการที่เสนอสินค้าหรือบริการใหม่ๆ สู่ตลาดเสมอ


ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ
link  : http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=73809:-3-&catid=171:pr&Itemid=512

ไทยพาณิชย์ ผนึก ส.อ.ท. เปิดมหกรรมสินค้า “SCB-FTI Factory Outlet 4” อัดฉีดรายได้ให้ภาคอุตสาหกรรม

05 กรกฏาคม 2554



ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดมหกรรมสินค้าคุณภาพ “SCB-FTI Factory Outlet” เป็นครั้งที่ 4 เพื่อกระตุ้นรายได้ภาคอุตสาหกรรมไทย พร้อมส่งเสริมคนไทยอุดหนุนสินค้าไทย นำสินค้ากว่า 140 แบรนด์ดัง มากระหน่ำส่วนลดสูงสุด 70% ระหว่างวันที่ 4-8 กรกฎาคม 2554 เวลา 09.00-18.00 น. ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน) โดยมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ (4 ก.ค.) 

               นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า “งาน SCB - FTI Factory Outlet” ที่จัดขึ้นนี้นับเป็นครั้งที่ 4 โดยเป็นความร่วมมือกับ ส.อ.ท. เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในด้านการผลักดันยอดขาย การบริหารสต๊อกสินค้า ด้วยการรวบรวมสินค้าชั้นนำที่ส่งตรงจากโรงงานมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงในราคาต้นทุน นับได้ว่าเป็นงานที่ผู้ผลิตพบกับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพราคาถูก รวมถึงช่วยกระจายรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารมีนโยบายจะจัดงาน SCB - FTI Factory Outlet อย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี โดยในปีที่ผ่านมา สามารถอัดฉีดรายได้ให้ภาคอุตสาหกรรมรวม 12 ล้านบาท และจากการจัดงานในครั้งที่ 4 นี้ คาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมได้กว่า 20 ล้านบาท”

110704-outlet-1.jpg

               นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นกลไกที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไม่น้อยไปกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ (LEs) แต่จากสภาวการณ์ต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยีและนวัตกรรม มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดผลกระทบต่อการแข่งขันในภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ประกอบกับ SMEs ของไทย ยังขาดข้อมูล และเงินทุนในการพัฒนาคุณภาพสินค้า และปัจจัยพื้นฐาน ในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการหาตลาดเป้าหมายใหม่ๆ ที่เหมาะสม พร้อมทั้งสร้างแบรนด์ให้สินค้าเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ดังนั้น ส.อ.ท.จึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้ประกอบการมาโดยตลอด จึงได้จัดกิจกรรม SCB - FTI Factory Outlet ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และช่วยเหลือผู้ประกอบการในด้านการลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้าคงคลัง การเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้า รวมทั้งการ กระตุ้นให้เกิดการซื้อขายภายในประเทศ เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น โดยผู้ประกอบการที่มาร่วมจัดจำหน่ายสินค้าภายในงาน จะมีทั้งในส่วนของสมาชิกของ ส.อ.ท. และลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของธนาคารไทยพาณิชย์ด้วย

               “งาน SCB – FTI Factory Outlet เป็นกิจกรรมรูปแบบหนึ่ง จากหลายๆ กิจกรรม ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สภาอุตสาหกรรมฯ กับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุน และช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในด้านการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้า ก่อให้เกิดสภาพคล่องทางธุรกิจ และกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งงานแสดงสินค้าดังกล่าว ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาแล้วเป็นเวลา 3 ปี ครั้งนี้นับเป็นปีที่ 4 โดยในปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากผู้ประกอบการที่มาร่วมแสดงสินค้า และผู้บริโภคที่มาจับจ่ายใช้สอยสินค้าภายในงาน ซึ่งถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก” ประธาน ส.อ.ท. กล่าว

110704-outlet-2.jpg

               สำหรับสินค้าที่มาร่วมจำหน่ายภายในงาน SCB - FTI Factory Outlet ครั้งนี้ เป็นสินค้าคุณภาพที่มาจากหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแฮนด์เมด เครื่องหนัง เครื่องใช้ในครัวเรือน ของตกแต่งบ้าน และเครื่องประดับ ฯลฯ ที่พร้อมมอบส่วนลดให้แก่ผู้บริโภคสูงสุดถึง 70%  ถือได้ว่าเป็นงานที่ผู้ผลิตพบผู้บริโภคโดยตรง อีกทั้งสินค้าได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4  – 8 กรกฎาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 18.00 น. ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน)

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ไทยพาณิชย์ฉลองความสำเร็จกองทุน POPFมูลค่า 3,420ล.ของ ภิรัชบุรี และ ดิเอราวัณ กรุ๊ป

วันอังคารที่ 05 กรกฏาคม 2011 เวลา 11:28 น.



ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) และผู้จัดการการจัดจำหน่าย (Sole Underwriter) ร่วมฉลองความสำเร็จการระดมเงินทุนในกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิซ (POPF) มูลค่า 3,420 ล้านบาท ของ บริษัท ภิรัชบุรี จำกัด และ บริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นกองทุนแรกที่นำทรัพย์สินจากลูกค้า 2 รายมาร่วมระดมทุนในครั้งเดียว และเป็น Office Property Fund ที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 5 ปี และเป็นอันดับ 2 ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งธนาคารมีเป้าหมายสนับสนุนกองทุนนี้อย่างต่อเนื่องให้เติบโตเป็นอันดับ 1 ในอนาคต

สรุปและวิเคราะห์ข่าว
ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมฉลองความสำเร็จการระดมเงินทุนในกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิซมูลค่า 3,420 ล้านบาท ของ บริษัท ภิรัชบุรี จำกัด และ บริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้คำปรึกษา ที่จะสนับสนุนให้กองทุนนี้มีการเติบโตเป็นอันดับหนึ่งต่อไปในอนาคต ซึ่งมีความไปได้สูง  เนื่องจากเป็นกองทุนแรกที่ร่วมระดมทุนในครั้งเดียว  ของลูกค้า 2 ราย  ทำให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกใหม่ๆ  และมีความน่าเชื่อถือจากการที่เป็น  Office  Property  Fund  ที่ใหญ่ที่สุดในรอบ  5 ปี และเป็นอันดับ  2  ในตลาดหลักทรัพย์  


ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=73661:-popf-3420----&catid=171:pr&Itemid=512