ผู้จัดทำและดูเเล


นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะวิทยาการจัดการ หลักสูตรบริหารธุรกิจ

สาขาวิชาการเงิน [1/2554]

ร ายวิชา การจัดการธนาคารพาณิชย์ A1 (3635102)


นางสาวอรมรินทร์ วันศรี (ซฺิ้ม)

นายธิติพงษ์ มหาเมฆ (หลุย)

นายอิทธิพัทธ์ ไทรชมภู (นิค)

นายอภิชาติ เเก้วสุนีย์ (ปิง)

นายจักรพงษ์ ปิ่นเเก้ว (อุ้ม)

นายวัชรพล เอื้อสุขไพศาลกุล (บุ้ง)

นางสาวนันทนัช เล้าศศิวัฒนพงษ์ (มุก)

นางสาวกนกวรรณ ชะเอม (เฟิร์น)





รายละเอียดเพิ่มเติม : http://soclever1.blogspot.com/

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

AP จับมือไทยพาณิชย์ แจกไม่อั้น กับบ้านกลางเมือง Amazing 7

วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 


AP นำเสนอแคมเปญ “บ้านกลางเมือง Amazing 7” กระตุ้นตลาดทาวน์เฮ้าส์พร้อมอยู่ ด้วยเลข 7 มหัศจรรย์ กับบ้านกลางเมือง 7 ทำเลศักยภาพในโซนลาดพร้าว ศรีนครินทร์ สาทร-ราชพฤกษ์ พร้อมจับมือธนาคารไทยพาณิชย์มอบ 7 ข้อเสนอทางการเงิน* และ 7 ของสมนาคุณพิเศษจากโครงการ ที่เตรียมมอบให้แบบไม่อั้น วันนี้ถึง 31 สิงหาคมนี้เท่านั้น


ที่มา : มติชนออนไลน์
Link :http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1310632227&grpid=&catid=10&subcatid=

SCB โชว์ไตรมาส 2 กำไรสุทธิ 8,100 ล้านบาท โต 53%

วันอังคารที่ 19 กรกฏาคม 2011 


            ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCBประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/2554 ที่ 8.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 53% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นผลประกอบการที่สูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหลังจากมีผลประกอบการที่สูงเป็นประวัติการณ์ของภาคธุรกิจการเงินมาแล้วในไตรมาสที่ 1/2554 ปัจจัยหลักขับเคลื่อนผลประกอบการที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องมาจาก รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากการที่สินเชื่อขยายตัวถึง 21.1% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เพิ่ม 36.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) โดยเฉพาะจากรายรับประกันภัย คุณภาพสินเชื่อปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ลดลงมาอยู่ระดับต่ำสุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 โดยมาอยู่ที่ 2.69% (สำหรับครึ่งแรกของปี 2554 ธนาคารมีกำไรสุทธิ ที่ 21.18 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.2% จากครึ่งแรกของปี 2553)
ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารให้ความเห็นต่อผลประกอบการไตรมาส 2/2554 ที่โดดเด่นว่า “ความสามารถในการทำกำไรที่สูงอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำถึงศักยภาพของธนาคารที่จะเดินต่อไปในอนาคตได้เป็นอย่างดีแม้ในสภาพแวดล้อมของการ ทำธุรกิจรูปแบบใหม่อันเป็นผลมาจากการมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนรวมถึงการมียุทธศาสตร์ในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความสำเร็จในการปรับโครงสร้างการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับโอกาสที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับความสามารถในการแข่งขันที่เด่นชัดจากการเป็นธนาคารที่ให้บริการการเงินที่ครบวงจรชั้นนำของประเทศ” ประธานกรรมการบริหารกล่าวเพิ่มว่า “ผลกำไรที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่องในสองไตรมาสที่สภาวะการแข่งขันสูงเช่นนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ ถึงความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับสูงของธนาคารที่จะต่อเนื่องไปในอนาคตได้เป็นอย่างดี”
         รายได้ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 29.7% มาอยู่ที่ระดับสูงถึง 12.6 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากยอด 9.7 พันล้านบาทของไตรมาส 2/2553) การเพิ่มขึ้นอย่างมากของรายได้ดอกเบี้ยเป็นผลมาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่สูงถึง 21.1% เทียบกับไตรมาส 2/2553 ทั้งนี้ การขยายตัวของสินเชื่อที่สูงกว่าตลาดโดยรวมมาจากการขยายตัวกระจายไปใน 3 กลุ่มหลัก (กลุ่มธุรกิจ SME กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อรถยนต์) นับเป็นการเติบโตที่โดดเด่นและสูงกว่าระดับปกติ
        รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นถึง 36.4% เทียบกับไตรมาส 2/2553 จากการเติบโตอย่างมากของรายได้จากการรับประกันภัย อันเป็นผลจากการเข้าซื้อบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ในไตรมาสก่อนหน้า คุณภาพสินทรัพย์ มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ณ สิ้นไตรมาส 2/2554 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.69% อันเป็นระดับต่ำสุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ส่งผลให้อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นจาก 110.6% ณ สิ้น ไตรมาส 1/2554 มาอยู่ที่ 114.5% ณ สิ้นไตรมาส 2/2554 ทั้งนี้ สินเชื่อด้อยคุณภาพใหม่ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำที่ 0.13% ในไตรมาสนี้
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ให้ความเห็นว่า “การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องที่เกิดขึ้นทั้งในด้านปริมาณธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรของทุกกลุ่มธุรกิจ (ธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจ SME ธุรกิจลูกค้าบุคคล และบริษัทในกลุ่มของธนาคาร) แสดงถึงการเติบโตอย่างสมดุลที่จะต่อเนื่องและยั่งยืนไปในอนาคต ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ดีถือเป็นคุณค่าที่ธนาคารมุ่งสร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่ลูกค้าของธนาคาร เป็นผลสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจในการทำงานของพนักงานธนาคารในทุกๆ ส่วน”



ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศษฐกิจ
Like  : http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=75450:scb--2--8100---53-&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524

ธนาคารไทยพาณิชย์รับรางวัล “ธนาคารยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย” จากยูโรมันนี

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554



         นายดีแพก ซาหรับ รองผู้จัดการใหญ่ และ CFO ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้แทนรับมอบรางวัล ′ธนาคารยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทยปี 2554” จากงาน Euromoney Awards for Excellence 2011 ที่ฮ่องกง จัดโดยนิตยสารยูโรมันนี นิตยสารชั้นนำทางด้านเศรษฐกิจการเงินในระดับสากล คัดเลือกจากผลการดำเนินงานอันโดดเด่นและสร้างความเติบโตให้กับธนาคารได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งทางด้านผลประกอบการและควบคุมจัดการกับหนี้ด้อยคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ


วิเคราะห์ข่าว
ก็แสดงให้เห็นถึงศักภาพที่ธนาคารสามารถดำเนินงานให้มีผลประกอบการและควบคุมจัดการกับหนี้ด้อยคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ประเทศเจอกับปัญหาของวิกฤตเศรฐกิจและปัญหาการเมือง  การที่ธนาคารได้รับรางวัลนี้ก็จะทำให้กลุ่มลูกค้ามีความไว้วางใจ  เชื่อถือในการใช้บริการต่างๆ  กับธนาคาร  ซึ่งก็ถือว่าเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของธนาคาร

แบงก์ไทยพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีผลวันที่ 19 กค

18 กรกฎาคม 2554





           นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจของประเทศมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง  แต่อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน ธนาคารจึงพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำและตั๋วแลกเงินปรับขึ้นประมาณ ร้อยละ 0.10- 0.35 ต่อปี ตามวงเงินและระยะเวลาการฝาก  สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ ได้มีการปรับขึ้นเช่นกันตามประเภทของอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ โดยปรับขึ้นประมาณร้อยละ 0.25 ต่อปี ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่  19 กรกฎาคม 2554 นี้



      จากการปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์บุคคลธรรมดาอยู่ที่ร้อยละ0.87 ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน ปรับขึ้นเป็นร้อยละ 1.75-1.95 ต่อปี เงินฝากประจำ 6 เดือน เป็นร้อยละ 2.10-2.30 ต่อปี  เงินฝากประจำ 12 เดือน ปรับขึ้นเป็นร้อยละ 2.50 -2.75 ต่อปี  เงินฝากประจำระยะยาว 24 เดือน ปรับขึ้นเป็นร้อยละ 3.00-3.20 ต่อปี และ 36 เดือน ปรับขึ้นเป็นร้อยละ 3.25-3.50 ต่อปี  สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ปรับเป็นร้อยละ 7.13 ต่อปี อัตราดอกเบี้ย MOR เป็นร้อยละ 7.40 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย MRR เป็นร้อยละ 7.90 ต่อปี ตามลำดับ

วิเคราะห์ข่าว
ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น  ก็เพื่อตอบสนองนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นในอนาคต   นอกจากนี้ก็น่าจะทำให้ลูกค้ามีความสนใจในการใช้บริการมากขึ้นด้วย  เพราะด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น  และบวกกับธนาคารมีภาพลักษณ์ที่ดีตลอดมา





ที่มา .- สำนักข่าวไทย: http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=434121&ch=ec1