ผู้จัดทำและดูเเล


นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะวิทยาการจัดการ หลักสูตรบริหารธุรกิจ

สาขาวิชาการเงิน [1/2554]

ร ายวิชา การจัดการธนาคารพาณิชย์ A1 (3635102)


นางสาวอรมรินทร์ วันศรี (ซฺิ้ม)

นายธิติพงษ์ มหาเมฆ (หลุย)

นายอิทธิพัทธ์ ไทรชมภู (นิค)

นายอภิชาติ เเก้วสุนีย์ (ปิง)

นายจักรพงษ์ ปิ่นเเก้ว (อุ้ม)

นายวัชรพล เอื้อสุขไพศาลกุล (บุ้ง)

นางสาวนันทนัช เล้าศศิวัฒนพงษ์ (มุก)

นางสาวกนกวรรณ ชะเอม (เฟิร์น)





รายละเอียดเพิ่มเติม : http://soclever1.blogspot.com/

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ไทยพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีผลตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2554


ไทยพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีผลตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2554



ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ตั๋วแลกเงินและเงินให้สินเชื่อทุกประเภท ตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย


              นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น  ธนาคารได้พิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินให้สินเชื่อ โดยเงินฝากประจำและตั๋วแลกเงินปรับขึ้นประมาณ 0.05%-0.25% ต่อปี ตามวงเงินและระยะเวลาการฝาก สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อได้มีการปรับขึ้นเช่นกันตามประเภทของอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อโดยปรับขึ้นประมาณ 0.125%-0.150% ต่อปี ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2554 นี้”


              จากการปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน เป็น 1.60%-1.85% ต่อปี เงินฝากประจำ 6 เดือนเป็น 1.95%-2.15% ต่อปี เงินฝากประจำ 12 เดือน เป็น 2.20%-2.40% ต่อปี เงินฝากประจำระยะยาว 24 เดือนปรับเป็น 2.80%-3.00% ต่อปี และ 36 เดือน ปรับเป็น 3.20%-3.30% ต่อปี สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ปรับเป็น 6.875% ต่อปี อัตราดอกเบี้ย MOR เป็น 7.150% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย MRR เป็น 7.650% ต่อปีตามลำดับ


              สอบถามรายละเอียดได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา หรือ SCB Call Center (02) 777-7777


ที่มา : http://www.scb.co.th : 8 มิถุนายน 2554

สรุปและวิเคราะห์ข่าว
ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ทั้งนี้ เพื่อตอบนโยบายของธนาคารเเห่งประเทศไทย  โดยปรับขึ้นทั้งดอกเบี้ยเงินฝาก  เเละสินเชื่อทุกประเภท ในอัตรา 0.25% ของดอกเบี้ยในผลิตภัณฑ์การเงินทุกประเภท  โดยมีผลตั้งเเต่วันที่ 8 มิถุนายนเป็นต้นไป
ทั้งนี้จากการประกาศขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้ ประเด็นหลัก
1. เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2554 เรื่องขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จาก 2.75% เป็น 3.00% 
2. เพื่อเร่งแก้ปัญหาเงินเฟ้อ เพราะเมื่อมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้ผู้สนใจนำเงินมาลงทุนมากขึ้น เป็นผลดีต่อทางธนาคารเเละประเทศ เเละผู้ลงทุนเองอีกด้วย รวมทั้งเมื่ออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อมีอัตราที่สูงเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันก็จะลดการกูสินเชื่อลงในทิศทางตรงกันข้าม
3. การเมือง การเมืองไทยที่มีการผันผวนตลอดเวลา มีความไม่แน่นอน ส่งผลให้การคิดเเละการตัดสินใจของนักลงทุนลดต่ำลงด้วย นั้นก็จะหมายความว่า การลงทุนจะลดต่ำลง ส่งผลให้เศรฐกิจอาจชะลอลงด้วย

การประกาศขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานตามนโยบายของกรรมการนโยบายการเงิน กนง. ของธนาคารเเห่งประเทศไทย เพื่อกระตุ้นการตื้นตัวของนักลงทุนเเละประชาชนทั่วไป ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย ทั้งเงินฝากเเละสินเชื่อ รวมถึงเร่งเเก้ปัญหาเงินเฟ้อที่มีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาการเมืองที่ที่เป็นผลให้การตัดสินใจในการลงทุนของนักลงทุนมีความไม่เเน่นอน เเต่อย่างไรเเล้ว ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นทางที่จะช่วยลดปัญหาที่กล่าวได้เสมอไป หากเป็นเพียงอีกทางเลือกหนึ่งเท่านั้น....

อ้างอิง : 
http://www.bot.or.th/thai/statistics/financialmarkets/interestrate/_layouts/application/interest_rate/IN_Rate.aspx อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดา วันที่ 7 มิถุนายน 2554
http://www.bot.or.th/thai/statistics/financialmarkets/interestrate/_layouts/application/interest_rate/IN_Rate.aspx อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดา วันที่ 8 มิถุนายน 2554
http://www.bot.or.th/thai/statistics/financialmarkets/interestrate/_layouts/application/interest_rate/IN_Rate.aspx อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ วันที่ 7 มิถุนายน 2554
http://www.bot.or.th/thai/statistics/financialmarkets/interestrate/_layouts/application/interest_rate/IN_Rate.aspx  อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ วันที่ 8 มิถุนายน 2554
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=562&contentID=145878 ข่าว ชี้ขึ้นดอกเบี้ยตามปัจจัยเสี่ยง
http://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/Documents/MPC_42554.pdf    ผลการประชมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 1 มิถุนายน 2554

ไทยพาณิชย์ จับมือ ดิอิสสระ ลาดพร้าวมอบสิทธิพิเศษกู้วงเงินสูงสุด 100%


ไทยพาณิชย์ จับมือ ดิอิสสระ ลาดพร้าวมอบสิทธิพิเศษกู้วงเงินสูงสุด 100%





110613-pro-isara.jpg

                
นางพิกุล ศรีมหันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์  
ร่วมกับ นายสงกรานต์ อิสสระ  ประธานกรรมการ บริษัท ซี.ไอ.เอ็น.เอสเตท จำกัด 
มอบแคมเปญพิเศษแก่ลูกค้าโครงการดิ อิสสระ ลาดพร้าว  ที่ยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร 
รับวงเงินกู้สูงสุด 100% และพิเศษลูกค้าที่ใช้วงเงินกู้ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป รับฟรีบัตร MRT 
มูลค่า 2,400 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 สิงหาคม 2554
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ SCB Call Center 02 777-7777

             




ที่มา http://www.scb.co.th : 13 มิถุนายน 2554


สรุปและวิเคราะห์ข่า


   ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมมือกับโครงการ ดิ อิสระ ให้เเก่ผู้ที่ยื่นของสินเชื่อกับธนาคารได้รับ 
วงเงินเต็ม 100%  พร้อมกับข้อเสนอพิเศษ กับผู้กู้ที่มียอกมากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไป 
รับฟรีบัตร MRT
   ในการร่วมมือกันระหว่างธนาคารพาณิชย์กับโครงการดิ อิสระ ถือเป็นโครงการที่น่าสนใจมาก 

เพราะในปัจจุบัน คนต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของต้นเอง เเละโครงการดิ อิสระ ของเป็น
โครงการที่มีคสนใจมาก ซึ่งในการร่วมมือเเละหมอบข้อเสนอแก่ประชาชน จะช่วยให้คนหันมา
สนใจมาก กับข้อเสนอเต็มวงเงิน 100% ช่วให้ยอดสินเชื่อของธนาคารเพิ่มขึ้น




ไทยพาณิชย์ออกสินเชื่อมัดใจเอสเอ็มอีครึ่งปีหลังการันตีสิทธิประโยชน์ “จ่ายดีมีเพิ่ม” เป็นแบงก์แรก


ไทยพาณิชย์ออกสินเชื่อมัดใจเอสเอ็มอีครึ่งปีหลังการันตีสิทธิประโยชน์ “จ่ายดีมีเพิ่ม” เป็นแบงก์แรก


ธนาคารไทยพาณิชย์ตอบโจทย์เอสเอ็มอีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง เปิดตัว “สินเชื่อ SCB เพิ่มให้” เป็นการกลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องอย่างท่วมท้นของข้อเสนอที่ให้วงเงิน 3 เท่าดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี เพิ่มข้อเสนอพิเศษสุด จ่ายดีเพิ่มวงเงินให้ และ “สินเชื่อการค้าต่างประเทศโตไว” สำหรับ SMEs ที่เป็นผู้นำเข้า-ส่งออก ลงตัวด้วยวงเงินสูง ครบครัน ค่าธรรมเนียมต่ำ การันตีสิทธิประโยชน์สุดตรงใจ เตรียมบุกตลาดเอสเอ็มอีครึ่งปีหลัง ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อได้ 27% จากฐานสินเชื่อในปี 53  หรือยอดสินเชื่อรวมจะอยู่ที่ 200,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี


nws-110608-sme.jpg



               นายศิริชัย สมบัติศิริ รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มลูกค้าธุรกิจ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2553-2554 ธนาคารรุกออกผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ มาตอบสนองความต้องการลูกค้าเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง และยังมีการศึกษาพฤติกรรมของผู้ประกอบการเพื่อการคิดค้นข้อเสนอใหม่ ๆ ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างดีที่สุด  โดยล่าสุดพบว่ายังมีเอสเอ็มอีจำนวนไม่น้อยที่มีความจำเป็นและมองหาวงเงินสินเชื่อที่มากพอสำหรับการขยายธุรกิจ รวมถึงระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนาน อัตราดอกเบี้ยต่ำหรือคงที่ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมต้นทุน และสร้างสภาพคล่องทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ไม่ต้องการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันที่มีมูลค่าสูงมากนัก  ธนาคารจึงนำเอาปัจจัยเหล่านี้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ตอบโจทย์ดังกล่าว จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  โดยเฉพาะสินเชื่อวงเงิน 3 เท่า ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ที่เคยออกไปเมื่อปีก่อน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลาม สร้างยอดสินเชื่อได้ถึง 7,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน จากที่ตั้งเป้าไว้เพียง 5,000 ล้านบาท เท่านั้น

               ในปีนี้ ธนาคารจึงได้ตอบรับกระแสเรียกร้องจากผู้ประกอบการอีกครั้ง ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อ SCB เพิ่มให้” สำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดย่อม (ธุรกิจที่มียอดขายต่อปี 10 -75 ล้านบาท) ให้วงเงินสูงสุดถึง 3 เท่าของมูลค่าหลักประกัน  วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี และเพิ่มเติมสิทธิพิเศษให้กับผู้ที่ผ่อนชำระหนี้ได้ตรงตามเงื่อนไขต่อเนื่องกัน 24 เดือน ด้วยการมอบสิทธิการขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มให้ จำนวนสูงสุดถึง 30% ของเงินต้นที่ได้ชำระคืนแล้ว ซึ่งการันตีได้ว่าเป็นธนาคารแห่งแรกและแห่งเดียวที่กล้าเพิ่มสิทธิประโยชน์ดังกล่าวให้กับลูกค้า ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้ายอด “สินเชื่อ SCB เพิ่มให้” ไว้ที่ 10,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้

               ส่วนอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์คือ สินเชื่อการค้าต่างประเทศโตไว” (SCB SME Trade) วงเงินสินเชื่อต่างประเทศสำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดกลาง (ธุรกิจที่มียอดขายตั้งแต่ 75 ล้านบาท-500 ล้านบาท) ให้วงเงินสูงสุดถึง 60 ล้านบาท โดยไม่ต้องใช้หลักประกันหรือใช้หลักประกันต่ำ และช่วยบริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้นด้วยบริการฟรีค่าธรรมเนียมเงินโอนต่างประเทศ ทั้งขาเข้าและขาออก

               ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์วางแผนจะออกผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายพร้อมสิทธิประโยชน์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าเอสเอ็มอีไปอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ SCB Business Call Center โทร. 02-722-2222

                                                                                                    ที่มา http://www.scb.co.th : 08 มิถุนายน 2554

ธนาคารไทยไทยพาณิชย์ มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นที่รู้จักกันในวงการการเงินอยู่ในปัจจุบันหลายประเภท เพื่อตอบสนองกับคนในทุกๆฝ่ายๆ เเล้วในปีนี้ ทางธนาคารไม่หยุดความคิด โดยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองกับกลุ่มธุรกิจ SME ให้สูงขึ้นเเละน่าสนใจกว่าเดิม คือ การเพิ่มวงเงิน  การลดดอกเบี้ย ร่วมถึงการอนุมัติสินเชื่อให้มีความง่ายไม่ยุ่งยากขึ้น  ช่วยสร้างยอดสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายที่คาดไว้ที่ 5000 ล้านบาท ได้ถึง 7000 ล้านบาท เเล้วในปีนี้ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ภายใต้ชื่อ "สินเชื่อ SMB เพิ่มให้ " โดยตั้งเป้าไว้ที่ 10000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี  เเละเพิ่มผลิตภัณฑ์ สินเชื่อการค้าต่างประเทศโตไว” (SCB SME Trade) " เพื่อตอบสนองกับกลุ่มลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง
       จะเห็นได้ว่าธนาคารไทยพาณิชน์ ไม่เคยหยุดคิด เเม้ว่าสิ่งที่ทำได้เกินเป้าหมายแล้ว ก็ยังเล่งเห็นความสำคัญเเละต้องการในกลุ่มลูกค้าดังกล่าว  การนำสิ่งที่คนต้องการเพื่อตอบความสนองสิ่งๆนั้น ส่งผลให้ยอดไปตามที่ตั้งไว้เเละเกินเป้าหมาย  ได้ประโยชน์ทั้งต่อองค์การเอง เเละผู้อื่น โดยไม่เอาเปรียบใคร เเต่อย่างไรเเล้ว ก็เป็นสร้างหนี้กับกลุ่มธุรกิจ SME เพิ่มขึ้น...