วันที่ 4 สิงหาคม 2554
ไทยพาณิชย์ตั้งเป้าโค่นอิออน ยึดแชมป์สินเชื่อบุคคลภายใน 3 ปี ปั๊มยอดกู้เป็น 40,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์หั่นเป้าเงินเดือน อัพวงเงินกู้ เพิ่มพนักงานฮัลโหลขายผลิตภัณฑ์
นางสาวอารยา ภู่พานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในสิ้นปี 2554 ธนาคารจะมียอดคงค้างสินเชื่อส่วนบุคคลเป็น 22,000 ล้านบาท จากปัจจุบัน 18,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 30% โดยมีจำนวนลูกค้าใหม่กว่า 120,000 ราย และมีส่วนแบ่งตลาด 8%
อย่างไรก็ตาม ภายใน 3 ปี หรือภายในปี 2556 ส่วนแบ่งตลาดจะเพิ่มเป็นอันดับ 1 โดยจะต้องมียอดคงค้างสินเชื่อเป็น 40,000 ล้านบาท สูงกว่าผู้นำตลาดในขณะนี้คือ บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ ซึ่งมียอดคงค้างสินเชื่อที่ 30,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารมองเห็นโอกาสที่จะสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจนี้ได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันทั้งระบบมียอดสินเชื่อคงค้างเพียง 200,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารปรับกลยุทธ์การเข้าถึงสินเชื่อใหม่ โดยเฉพาะคุณสมบัติด้านรายได้ประจำ ซึ่งเหลือที่ 10,000 บาทต่อเดือน และเพิ่มวงเงินสินเชื่อจาก 2.5 เท่าของเงินเดือน เป็น 5 เท่าของเงินเดือน หรือไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
พร้อมทั้งขยายช่องทางการขายจากผ่านสาขาทั่วประเทศ 1,000 สาขาแล้ว ยังเพิ่มเจ้าหน้าที่ขายทางโทรศัพท์เป็น 1,000 คน จากปัจจุบัน 400 คน ซึ่งจะทำให้ขายสินเชื่อเพิ่มขึ้นได้เป็น 2,000 ล้านบาทต่อเดือน จากปัจจุบันอยู่ที่ 800 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาทต่อเดือน ในปี 2555
“ ช่วงนี้เศรษฐกิจดี แบงก์ต้องเร่งขยายตลาด แต่ไม่ลืมที่จะมอนิเตอร์คุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพบก็จะเข้าไปแก้ไขทันที เพื่อไม่ให้หนี้เสียสูงกว่าขณะนี้ที่อยู่ที่ 1% ต่ำกว่าตลาดซึ่งอยู่ที่ 3%” น.ส.อารยาระบุ
สำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตสิ้นปีนี้ จะมียอดการใช้จ่ายประมาณ 160,000 ล้านบาท เติบจากปีก่อน 25% มีส่วนแบ่งตลาดที่ 18% โดยครึ่งแรกของปีเติบโต 15%.
นางสาวอารยา ภู่พานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในสิ้นปี 2554 ธนาคารจะมียอดคงค้างสินเชื่อส่วนบุคคลเป็น 22,000 ล้านบาท จากปัจจุบัน 18,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 30% โดยมีจำนวนลูกค้าใหม่กว่า 120,000 ราย และมีส่วนแบ่งตลาด 8%
อย่างไรก็ตาม ภายใน 3 ปี หรือภายในปี 2556 ส่วนแบ่งตลาดจะเพิ่มเป็นอันดับ 1 โดยจะต้องมียอดคงค้างสินเชื่อเป็น 40,000 ล้านบาท สูงกว่าผู้นำตลาดในขณะนี้คือ บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ ซึ่งมียอดคงค้างสินเชื่อที่ 30,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารมองเห็นโอกาสที่จะสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจนี้ได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันทั้งระบบมียอดสินเชื่อคงค้างเพียง 200,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารปรับกลยุทธ์การเข้าถึงสินเชื่อใหม่ โดยเฉพาะคุณสมบัติด้านรายได้ประจำ ซึ่งเหลือที่ 10,000 บาทต่อเดือน และเพิ่มวงเงินสินเชื่อจาก 2.5 เท่าของเงินเดือน เป็น 5 เท่าของเงินเดือน หรือไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
พร้อมทั้งขยายช่องทางการขายจากผ่านสาขาทั่วประเทศ 1,000 สาขาแล้ว ยังเพิ่มเจ้าหน้าที่ขายทางโทรศัพท์เป็น 1,000 คน จากปัจจุบัน 400 คน ซึ่งจะทำให้ขายสินเชื่อเพิ่มขึ้นได้เป็น 2,000 ล้านบาทต่อเดือน จากปัจจุบันอยู่ที่ 800 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาทต่อเดือน ในปี 2555
“ ช่วงนี้เศรษฐกิจดี แบงก์ต้องเร่งขยายตลาด แต่ไม่ลืมที่จะมอนิเตอร์คุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพบก็จะเข้าไปแก้ไขทันที เพื่อไม่ให้หนี้เสียสูงกว่าขณะนี้ที่อยู่ที่ 1% ต่ำกว่าตลาดซึ่งอยู่ที่ 3%” น.ส.อารยาระบุ
สำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตสิ้นปีนี้ จะมียอดการใช้จ่ายประมาณ 160,000 ล้านบาท เติบจากปีก่อน 25% มีส่วนแบ่งตลาดที่ 18% โดยครึ่งแรกของปีเติบโต 15%.
ที่มา : ไทยโพสต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น