นางพรรณแข นันทวิสัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สาย GTS กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)เปิดเผยว่า ขณะนี้รายได้จากค่าธรรมเนียมในกลุ่มบริหารจัดการเงินสดเพิ่มขึ้น โดยสัดส่วนการเติบโตไม่เท่ากัน ปริมาณที่เป็นช่องทางอิเล็คทรอนิคจะเพิ่มมากกว่า ส่วนค่าธรรมเนียมในกลุ่มวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากการแข่งขันระหว่างธนาคารค่อนข้างรุนแรงยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการตัดราคากัน ค่าธรรมเนียมจึงไม่เติบโตเท่าปริมาณธุรกรรมที่มีเพิ่มขึ้น ทั้งนี้คาดว่า ปี2554 อัตราการขยายตัวจากค่าธรรเนียมจะเติบโต 2 หลัก จากฐานลูกค้าที่ใช้บริการการจัดการเงินสด จ่ายและรับ ปัจจุบันอยู่ที่ 10,000 ราย และถ้ารวมธุรรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ทด้วย ก็จะมีฐานลูกค้าเป็น 20,000 ราย
"อย่างไรก็ตามจากฐานลูกค้า 20,000 ราย มียอดที่ใช้อย่างสม่ำเสมอ (active) 10,000 ราย ซึ่งเป้าหมาย คือ ต้องการให้ลูกค้า หันมาใช้มากขึ้นจากเดิมที่ใช้อยู่ 50 % ก็ให้หันมาใข้เป็น70 % "
นางพรรณแข กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราจะเน้น เพื่อให้ลูกค้าหันมาใช้บริการการจัดการเงินสด คือต้องสร้างความแตกต่างจากบริการของธนาคารอื่น เช่น การรับเงิน-จ่ายเงินที่สะดวก มีข้อมูลที่ครบและมีประสิทธิภาพ เพราะถ้าไม่แตกต่าง ก็จะหนีไม่พ้นเรื่องการแข่งขันตัดราคากัน ซึ่งธนาคารฯจะพยายามจัดการข้อมูลให้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ลูกค้ามีประสิทภาพในการประกอบธุรกิจ โดยลูกค้ามีทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ขณะเดียวกัน จะพยายามเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งเน้นลูกค้าผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) ให้มากขึ้น
สรุปและวิเคระห์ข่าว...
จากการเเข่งขันของเเต่ละธนาคารที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ยอดธุรกรรมบางประเภทของธนาคารลดต่ำลง เเต่อย่างไรเเล้ว ตัวเลขก็อยู่ในอัตราที่เพิ่ม
เเต่อย่างไรก็ดี ด้วยความมั่นคงเเละความน่าเชื่อถือของธนาคาร ก็จะช่วยสส่งผลให้ธนาคารดำเนินไปได้ด้วยดี เเม้จะต้องเเข่งขันกับธนาคารอื่น เร่งคิดข้อเสนอใหม่ๆน่าสนใจมา ก็จะช่วยได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น